
การทำงานของนักสืบ สืบพฤติกรรมคนในครอบครัว

การทำงานของนักสืบ สืบพฤติกรรมคนในครอบครัว ลักษณะของนักสืบควรเป็นอย่างไร สืบประวัติบุคคลตรวจสอบประวัติบุคคล นักสืบ
นักสืบ รับหน้าที่เป็นผู้สอดแนมพร้อมเก็บข้อมูลของเรื่องราวต่างๆ มีทั้งนักสืบเอกชนที่รับงานจากการว่าจ้างของลูกค้าโดยตรง หรือทำงานร่วมกับตำรวจ โดยอาชีพนี้มักเข้าไปมีบทบาทในนวนิยายต่างๆ อีกทั้งยังเป็นผู้ไขคดีฆาตกรรม รวมทั้งคดีอันน่าพิศวงต่างๆ มากมาย ซึ่งการสืบนั้นดำเนินการแบบประกบตัวของบุคคลต้องสงสัยเพื่อให้ได้ข้อมูลตามต้องการ แต่ว่านักสืบไม่อาจทำอะไรนอกเหนือไปกว่านี้ได้ เช่น ไม่สามารถจับกุม , ขอตรวจค้นหา เป็นต้น นักสืบจะเป็นผู้คนหาความจริงของเรื่องราวต่างๆ ตามแต่ผู้ว่าจ้างต้องการ
การทำงานของนักสืบ
งานของนักสืบ ถ้าจะขอแบ่งประเภทของงานให้ทางลุกค้าเข้าใจง่ายๆ ก็แบ่งได้ 2 ประเภท คืองานสืบด้านข้อมูล และงานภาคสนาม งานสืบข้อมูลก็คือ งานสืบค้นหาข้อมูลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับบุคคลที่ต้องการให้สืบ เช่น ข้อมูลประวัติส่วนตัว , ครอบครัว , ทรัพย์สิน , สถานะทางการเงิน หรือข้อมูลทางเชิงลึกนอกเหนือจากที่กล่าวมา ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทางลูกค้าว่า ต้องการอยากทราบอะไรบ้าง ส่วนงานภาคสนาม ก็คือ งานที่ต้องลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเป็นหลักฐานเพื่อส่งมอบให้กับทางลูกค้า เช่นภาพถ่าย หรือ คลิปวีดีโอ ของบุคคลที่ต้องการให้สืบ งานภาคสนามถ้าจะเรียกอีกอย่างว่า
“งานสืบพฤติกรรม” ก็คงให้ความหมายไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะว่า งานภาคสนามก็คือ งานที่ต้องเฝ้าติดตามดูเป้าหมายตลอดเวลาว่า ในแต่ละวันเค้าไปทำอะไร , ไปที่ไหน ,ติดต่อกับใคร ฯลฯ ตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับงานว่าทางลุกค้าต้องการให้ติดตามเป้าหมายเพื่ออยากทราบอะไร ถ้าจัดอันดับจากประสบการณ์ที่ทางลูกค้าติดต่อเข้ามาเพื่อต้องการให้ทำงานให้ อันดับแรกก็เรื่องชู้สาว ของสามีภรรยาหรือคนในครอบครัว รองลงมาก็เป็นเรื่อง สืบงานด้านธุรกิจ เช่น หาแหล่งผลิตที่มาของสินค้าว่าผลิตหรือรับสินค้ามาจากที่ไหนหรือถูกส่งไปที่ไหน หรือเป็นงานสืบหาหลักฐานการทุจริตของผู้ร่วมลงทุนทางธุรกิจที่ลงทุนร่วมกันรวมทั้งการสืบหาหลักฐานของคนในองค์กรที่เข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์ นอกเหนือจากนี้ก็เป็นงานสืบ ทั่วไป สืบหาคนหาย , รถหาย , สืบพฤติกรรมบุตรหลานหรือคนใกล้ชิด ฯลฯ งานสืบด้านข้อมูลและงานสืบพฤติกรรม ในบางครั้งก็ต้องทำงานควบคู่กัน ขึ้นอยู่กับว่าข้อมูลเบื้องต้นของเป้าหมายที่ทางลูกค้าแจ้งให้เราทราบมีมากน้อยเพียงใด เพราะว่ายิ่งมีข้อมูลของตัวเป้าหมายมากเท่าไหร่การทำงานก็จะง่ายขึ้นโอกาสหรือความสำเร็จของงานก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน เพราะในการทำงานของนักสืบก่อนที่จะลงพื้นที่เพื่อปฏิบัติงานเราจำเป็นจะต้องมีข้อมูลของบุคคลที่ต้องการให้สืบให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ก็เพื่อที่จะได้สะดวกในการทำงานอย่างน้อยก็เพื่อให้ทางลูกค้าได้มั่นใจว่า ค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายให้กับทางเรานั้น ผลที่ได้รับมันคุ้มค่ากับเงินที่ทางท่านมอบความไว้วางใจให้ทางเราปฏิบัติงานให้กับท่าน
สืบพฤติกรรมคนในครอบครัว
หัวข้อมาแรงสุด สร้างงานได้มากสุด และรายได้มากสุดของนักสืบเอกชนในไทยก็คือ หัวข้อการสืบพฤติกรรมของคนในครอบครัว โดยเฉพาะคู่สามีภรรยา ที่ต้องการจะสืบว่าอีกฝ่ายมีชู้ มีกิ๊ก ซ่อนอยู่หรือไม่ เรื่องนี้นอกจากอารมณ์ ความรัก ความหึงหวง มันยังเกี่ยวพันกับการฟ้องร้อง ฟ้องหย่ากับอีกฝ่ายด้วย หากใครมีหลักฐานมัดอีกฝ่ายว่ามีการคบซ้อน คบชู้ก็จะสามารถเรียกร้องข้อต่อรองได้มากกว่าในศาล ไม่ว่าจะเป็นค่าเลี้ยงดู ค่าทนาย สิทธิ์ในการดูแลบุตร ฯลฯ นั่นทำให้งานสืบหัวข้อนี้มีเยอะมาก ทำกันไม่หวาดไม่ไหว
สืบความลับทางธุรกิจ
การทำธุรกิจใครมองว่าจะมีแต่สีขาวอย่างเดียว แสดงว่ามองโลกสวยเกินไปสักหน่อย โลกของธุรกิจนั้นต้องใช้วลีว่า “การศึกไม่หน่ายกลยุทธ์” จึงไม่แปลกที่จะมีการจ้างนักสืบมาเพื่อค้นหาความลับทางธุรกิจของฝ่ายตรงข้าม หรือบางครั้งอาจจะเป็นเรื่องของการสืบที่ไปที่มาของคู่ค้าว่าไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหน(แม้จะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่เชื่อเหอะว่ามีจริง) เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะโดนหลอกได้
ตามหาคนหาย
คนหายเป็นอาชญากรรมรูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อยมากในสังคมไทยเรา ยิ่งกรณีของเด็กยิ่งเยอะมากทั้งการล่อลวงไปเพื่อนำไปขายอวัยวะ หรือนำไปค้าประเวณี ค้ามนุษย์ การจะไปตามหาเองดูจะยิ่งมืดมนเกินไป หวังพึ่งทางการก็อาจจะยากหน่อยตำรวจท่านก็มีงานล้นมือ การใช้บริการนักสืบที่เขามีเครือข่ายมากกว่าอาจจะตามหาได้ในเร็ววัน ยิ่งหายแล้วแจ้งเร็วก็มีโอกาสมากขึ้น
ติดตามลูกหนี้
การไม่มีหนี้เป็นเรื่องอันประเสริฐอันนี้จริงทีเดียว แม้เราจะมีลูกหนี้แต่การตามหนี้นั้นไม่ง่ายเลย บางคนหนีหนี้ไปจนตามหาไม่เจอ ครั้นจะไปตามบ้านญาติเขาก็คงนกรู้บินหนีไปอีก หากมูลหนี้เยอะมากการติดตามหนี้ด้วยการฝากให้นักสืบตามหาให้จะดีกว่า เขามีวิธีการตามหาลูกหนี้ที่เราคาดไม่ถึงรับรองว่าถ้าลูกหนี้ไม่หนีไปออกนอกประเทศบอกเลยว่าเขาหาเจอแน่นอน นี่แหละหัวข้องานของนักสืบเอกชนไทยยุคนี้
ลักษณะของ นักสืบ ควรเป็นอย่างไร?
– ต้องเข้าใจเนื้องานที่จะสืบ
– งานสืบสวนเหมาะสำหรับคนที่ไหวพริบทางปัญญาสูง ๆ
– ที่สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว
– เหตุเกิดเฉพาะหน้าสามารถแก้ได้เลย
– มีความอดทน
– ทำงานไม่เป็นเวลา เตรียมพร้อมตลอด
– สุขภาพดี แข็งแรง
– มีความละเอียดอ่อน
– เป็นคนช่างสังเกตุ
– การรักษาความลับของลูกค้า
– นักสืบจะมีข้อเท็จมาก เรื่องสำคัญส่วนตัวของลูกค้าต้องรักษาให้ได้
– ไม่แพร่งพรายหรือเล่าให้ญาติพี่น้องรับทราบ
– นักสืบต้องมีความคล่องตัวสูง
– ติดตามสืบพฤติกรรมต้องไม่ให้รู้ว่าเรากำลังสืบอยู่ต้องมีประการณ์
– วิธีการติดตามต้องรู้วิธี นักสืบต้องมีความรู้ทั่วไปต้องรู้เป็นอย่างดี
– เป็นงานที่เกี่ยวกับการปลอมตัวต้องปลอมให้เหมาะสมกับสภาวะแวดล้อม
– รู้เกี่ยวกับรายละเอียดบุคคล
– งานสืบต้องสอบให้ละเอียดทำงานต้องทำให้ตรงกับผู้ว่าจ้าง
คุณสมบัติของนักสืบ
1. มีความอดทนสูง ส่วนมากนักสืบต้องเป็นกลุ่มอาชีพที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก เนื่องจากลักษณะงานเน้นไปที่การเฝ้าติดตามพฤติกรรมรายบุคคลเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ต้องเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนและปัญหาเฉพาะหน้าที่ต้องแก้ไขมากมาย จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาบุคลากรที่เหมาะสมกับงานประเภทนี้ เพราะพวกเขาต้องมีความสามารถในการบริหารจัดการตนเองที่ดี เพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ อาทิ สามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้เป็นระยะเวลานาน รายงานสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง และเฝ้ามองเป้าหมายอย่างไม่คลาดสายตา เป็นต้น
2. เป็นคนช่างสังเกต ควรมีคุณสมบัติที่ดีของผู้ประกอบอาชีพนักสืบ คือมีบุคลิกช่างสังเกต เก็บรายละเอียดของเป้าหมายหรือวัตถุพยานต่างๆได้อย่างครบถ้วน รวมถึงมีไหวพริบสามารถพลิกแพลงสถานการณ์เพื่อสืบค้นข้อมูลหลักฐานได้อย่างเหมาะสมอีกด้วย เพราะบางครั้งโอกาสในการเข้าถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นเอง
3. ทำงานเป็นทีมได้ดี หลายคนอาจคุ้นเคยกับบทบาทของนักสืบในภาพยนตร์ หรือการ์ตูน ที่มีพระเอกบินเดี่ยวเก็บเกี่ยวข้อมูลหลักฐานได้อย่างเหนือชั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วการสืบหาข้อมูลหลักฐานในแต่ละเรื่อง ต้องอาศัยทีมงานเครือข่าย และผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคอยให้คำแนะนำตลอดเวลา เพื่อลดผลกระทบที่จะตามมาในภายภาคหน้านั่นเอง ดังนั้นนักสืบมืออาชีพจะต้องมีทัศนคติที่ดี สามารถรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเพื่อนร่วมงาน ตลอดจนสามารถเข้าใจจุดประสงค์ของผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สืบเนื่องจากปัจจัยข้อนี้อาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของทีมงานมืออาชีพมีอัตราสูงกว่าท้องตลาดสักเล็กน้อย แต่หากเรามองในแง่ของคุณภาพการทำงานและความน่าเชื่อถือในข้อมูลที่ได้รับแล้วยังถือว่าคุ้มค่า เกินราคา และประหยัดเวลาอันมีค่าของท่านได้มากมาย
4. เก็บความลับเก่ง จรรยาบรรณที่สำคัญที่สุดสำหรับวิชาชีพนักสืบ คือการเก็บรักษาความลับของผู้ว่าจ้าง เพราะบางเรื่องมีความละเอียดอ่อนที่ไม่สามารถเปิดเผยให้กับสาธารณะชนรับรู้ได้ ดังนั้นการทำงานของนักสืบส่วนใหญ่จะต้อง กระชับ ฉับไว ไม่ยืดเยื้อ เมื่องานที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้น ก็จะไม่ติดต่อหรือกระทำการใดอันเป็นการรบกวนผู้ว่าจ้างด้วยประการทั้งปวง
5. มีความระมัดระวัง ความปลอดภัยคือเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ เพราะงานนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้คนมากมาย และอาจจะขัดต่อผลประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้ ดังนั้นการเฝ้าติดตามหรือเสาะหาพยานหลักฐานต้องใช้ความระมัดระวังคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก อาทิ การเฝ้าติดตามต้องมีการทิ้งระยะห่างไว้พอสมควรเพื่อไม่เป็นที่สังเกตและเสี่ยงต่อการถูกจับได้ หรือหากตกอยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง สามารถติดต่อทีมงาน หรือหน่วยงานด้านความปลอดภัยได้ทันท่วงที ตลอดจนสามารถเตรียมแผนป้องกันและหาทางหนีทีไล่ในกรณีฉุกเฉิน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น