
เปิดประวัติเสือมังกร เล่นง่าย จ่ายไว วิธีการเล่นไม่ซับซ้อน

เปิดประวัติเสือมังกร เล่นง่าย จ่ายไว วิธีการเล่นไม่ซับซ้อน เสือมังกรเป็นเกมที่ยอดนิยมในตอนนี้มาก เพราะทุกคนต่างอยากได้ผลตอบแทนรวดเร็วทันใจ เสือมังกรเป็น เป็นเกมไพ่แบบหนึ่งที่เน้น การพนันด้วยไพ่เพียงแค่ใบเดียว โดยผู้เล่นจะมีเพียง 3 ตัวเลือกสำหรับการเดิมพันนั่นคือเลือกพนันระหว่างมังกร หรือเสือ หรือเสมอ เกมไพ่เกมนี้ เป็นที่นิยมกันอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆด้วยรูปแบบของเกมที่มีความง่าย รวดเร็วทันใจ และมีอัตราการจ่ายที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามเกมไพ่เสือมังกร มีลักษณะการเล่นคล้ายกับ บาคาร่า แต่ว่าบาคาร่านั้นจะมีความซับซ้อนด้วยแนวทางเล่น และการเดิมพันที่หลากหลายรูปแบบ รวมถึงเปิดไพ่สูงสุดถึง 3 ใบ เกมไพ่เสือมังกรนั้นแม้ว่าจะคล้ายคลึงกับการเล่นไพ่บาคาร่าแต่ทั้งคู่อย่างนี้ไม่ได้มีความคล้ายคลึงกันในเรื่องของเวลา ซึ่งไพ่เสือมังกรถูกวางแบบมาเพื่อเอาอกเอาใจคนใจร้อนอยากได้เงินเร็ว พวกเรามาดูกันเลยว่าประวัติความเป็นมาของเกมส์เสือมังกรนั้นเป็นมาอย่างไรบ้าง เสือมังกร ตา ละ 5 บาท
ความเป็นมาของเสือมังกร
เสือมังกรแรกเริ่มเข้ามามีอิทธิพลมาจากประเทศเขมร และเป็นชาวกัมพูชาที่เป็นคนคิดค้นขึ้นมา เพราะเป็นเกมไพ่ ที่เล่นง่ายเข้าใจง่ายเห็นผลไว รวดเร็วกว่าเกมส์ไพ่อื่นๆ จนได้รับความนิยมเพื่อมากขึ้นและเป็นที่รู้จักกันเป็นจำนวนมากในหมู่นักพนันทั้งหลาย แต่พอมีคนเล่นกันมาก ทางบ่อนคาสิโนได้นำ เข้ามาสู่ระบบให้เหล่านักพนัน ได้เล่นกันอย่างเติมอิ่ม และได้ถูกยกระดับของให้เข้าสู่ระบบออนไลน์ และแต่ละเว็บไชต์ก็เปิดให้นักเสี่ยงโชคได้เข้ามาเล่นกัน และหลังจากนั้นก็เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก และในปัจจุบันนี้ไม่ว่าไปทางไหนก็ไม่มีใครไม่รู้จักเกมส์ไพ่เกมส์นี้
รูปแบบการแทงไพ่เสือมังกร
1. แทงฝั่งมังกร (Dragon) การแทงฝั่งมังกร หรือ ฝั่งสีแดง คือการที่เราวางเดิมพันว่า แต้มของฝั่งมังกรจะมากกว่าแต้มของฝั่งเสือ ซึ่งผู้เล่นฝั่งมังกรจะได้รับไพ่ และมีโอกาสได้เปิดไพ่ก่อน ทำให้รู้คะแนนก่อนนั่นเอง โดยอัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1 ฝั่งของมังกรนั้น จะเป็นฝั่งที่ได้รับไพ่ก่อน และมีโอกาศเปิดไพ่ก่อน มันจึงทำไห้ไพ่ฝั่งนี้นั้นมีโอกาศที่จะรู้คะแนนก่อนนั้นเอง
2. แทงฝั่งเสือ (Tiger) แทงฝั่งเสือ หรือ ฝั่งสีน้ำเงิน ก็คือการที่ทายว่าฝั่งเสือจะมีแต้มมากกว่าฝั่งมังกรนั่นเอง ซึ่งผู้เล่นฝั่งเสือจะได้รับไพ่ทีหลัง ซึ่งทำให้รู้คะแนนทีหลังฝั่งมังกร โดยอัตราการจ่ายเงินเดิมพันอยู่ที่ 1:1 เช่นเดียวกันเป็นฝั่งที่ได้รับไพ่ทีหลังจะได้เปิดไพ่ทีหลัง มันจึงทำไห้ฝั่งนี้นั้นมีการที่สามารถรู้ก่อนว่า คู่แข่งของเรานั้นได้ไพ่อะไรนั้นเอง
3. แทงเสมอ (Tie) การแทงรูปแบบนี้ คือการที่เราเลือกเดิมพันว่า แต้มของทั้งสองฝั่งจะมีค่าเท่ากัน ซึ่งโอกาสที่ไพ่ทั้งสองฝั่งจะออกมาเสมอกันนั้นเป็นไปได้ง่ายกว่าเกมไพ่ชนิดอื่นๆ จึงทำให้อัตราจ่ายเงินเดิมพันสูงกันเลยทีเดียว การวางเดิมพันเสมอนั้น ท่านจะชนะก็ต่อเมื่อ ไพ่ทั้งสองฝั่งนั้นมีคะแนนเท่ากัน ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก จึงทำไห้อัตราการจ่ายของการเดิมพันเสมอนั้นมีอัตราการจ่ายสูง หากท่านแทงเสมอชนะ ท่านจะได้รับเงินเดิมพันมากถึง 8 เท่าจากยอดเงินที่ท่านนั้นวางเดิมพัน
เล่นไพ่ยังไงให้ได้เงินจริง
เราจะมาพูดถึงเทคนิค สูตรวิธีเล่นไพ่เสือมังกรออนไลน์ได้เงินจริง มีโอกาสที่จะชนะมากกว่าการแทงแบบเดาสุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนักพนันมือใหม่ หรือเซียนก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ได้
1. สูตรเค้าไพ่เสือมังกร เทคนิคนี้ถือเป็นเทคนิคขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจำเป็นจะต้องรู้ เพราะมีวิธีสังเกตที่ไม่ยาก โดยเค้าไพ่ก็คือ เมื่อฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะติดต่อกันหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น หากฝั่งมังกรชนะติดต่อกัน 3 ครั้ง ครั้งที่ 4 มีโอกาสสูงมาก ที่ไพ่จะออกมาเป็นมังกร เป็นต้น
2. สูตรเสือมังกร เค้าไพ่ปิงปอง เทคนิคนี้มีลักษณะการออกไพ่ที่สลับกันไปมาแต่ละฝั่ง เหมือนการเล่นปิงปอง เช่น ไพ่ออกฝั่งเสือ, มังกร, เสมอ และ เสือ แบบนี้เป็นต้น ซึ่งเมื่อเกิดเค้าไพ่ปิงปองขึ้นมา เราก็ขอแนะนำให้ผู้เล่นลงเดิมพันสลับกันไปเรื่อยๆ จนกว่าเค้าไพ่จะออกมาเป็นแบบซ้ำๆ กัน แล้วเราก็ถึงเอาเทคนิคก่อนหน้ามาใช้ได้
3. สูตรเค้าไพ่ 2 ตัวติด เทคนิคนี้คือ การที่ฝั่งนึงชนะ 2 ครั้งติดแล้วเปลี่ยนฝั่ง กลับมาชนะ 2 ครั้งติดอีกเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝั่งมังกรชนะ 2 ครั้งติด แล้วต่อมา ฝั่งเสือก็ชนะ 2 ครั้งติด ซึ่งถ้าเกิดไพ่สองตัวติดขึ้นมา เราก็ขอแนะนำให้ผู้เล่นแทงตามฝั่งที่มีแววว่าจะชนะครั้งที่ 2 นั่นเอง
คำศัพท์ของเกมเสือมังกร
- Tiger หรือ เสือ เป็นทีมฝั่งสีแดง และเป็นฝั่งของทางผู้เล่น โดยจะมีสัญลักษณ์รูปเสือเป็นตัวแทนของฝั่งทางนี้ด้วย
- Dragon หรือ มังกร เป็นทีมฝั่งสีน้ำเงิน และเป็นฝั่งของทางเจ้ามือด้วยนั่นเอง ทางฝั่งนี้จะใช้สัญลักษณ์มังกรเข้ามาเป็นตัวแทนตามชื่อของมันเลย
- Tie หรือ แปลว่าเสมอ นั่นหมายถึงว่าเมื่อท่านลงเดิมพันในข้างนี้ คือการเสี่ยงทายว่าไพ่ทั้งเสือ และมังกรนั้นจะเสมอกันไม่มีฝ่ายแพ้ หรือชนะเลย
- Tiger odd หรือ เสือคี่ นั่นคือไพ่ที่ข้างเสือออกมาเป็นเลขคี่
- Tiger Even หรือ เสือคู่ นั่นคือไพ่ที่ข้างของเสือออกมาเป็นเลขคู่นั่นเอง
- Dragon odd หรือ มังกรคี่ ไพ่แบบนี้คือไพ่ในข้างมังกรออกมาเป็นเลขคี่
- Dragon Even หรือ มังกรคู่ ไพ่แบบนี้คือไพ่ในข้างมังกรออกมาเป็นเลขคู่
- Tiger Black คือ เสือดำ ไพ่นี้เป็นการเสี่ยงทายว่า ไพ่ข้างเสือออกมาที่สีดำ
- Tiger Red คือ เสือแดง ไพ่นี้เป็นการเสี่ยงทายว่า ไพ่ข้างเสือออกมาที่สีแดง
- Dragon Black คือ มังกรดำ ไพ่นี้เป็นการเสี่ยงทายว่า ไพ่ข้างมังกรออกมาที่สีดำ
- Dragon Red คือ มังกรแดง ไพ่นี้เป็นการเสี่ยงทายว่า ไพ่ข้างมังกรออกมาที่สีแดง
อัตราการจ่ายในไพ่ เสือมังกร
อย่างเช่น
แทงฝั่งเสือ(Tiger) แทง 1 จ่าย 1
แทงฝั่งมังกร(Dragon) แทง 1 จ่าย 1
แทงเสมอ(Tie) แทง 1 จ่าย 8
หรือ ดังเช่น
แทงเสือ จะเป็นผู้ชนะ อัตราจ่าย 1 : 1
แทงมังกร จะเป็นผู้ชนะ อัตราจ่าย 1 : 1
แท่งไพ่คู่ อัตราจ่าย 1 : 11
แทงไพ่เสมอ อัตราจ่าย 1 : 30
แต้ม เสือ มังกร ของแต่ละใบ
แต้มของไพ่ของเสือแต่ละใบจะสื่อความหมายเรียกตัวเลขที่ปรากฏบนหน้าไพ่ ดังต่อไปนี้
ไพ่ A = 1 แต้ม
ไพ่ 2 = 2 แต้ม
ไพ่ 3 = 3 แต้ม
ไพ่ 4 = 4 แต้ม
ไพ่ 5 = 5 แต้ม
ไพ่ 6 = 6 แต้ม
ไพ่ 7 = 7 แต้ม
ไพ่ 8 = 8 แต้ม
ไพ่ 9 = 9 แต้ม
ไพ่ 10 = 10 แต้ม
ไพ่ J = 11 แต้ม
ไพ่ Q = 12 แต้ม
ไพ่ K = 13 แต้ม
การนับแต้มไพ่ เสือ มังกร
ไพ่ K มีแต้มเป็น 13
ไพ่ Q มีแต้มเป็น 12
ไพ่ J มีแต้มเป็น 11
ไพ่ 2–10 มีแต้มตามเลขหน้าไพ่ที่ปรากฎ
ไพ่ A มีแต้มเป็น 1